[OS] Sunggyu x Woohyun ★ Special day with Special thing
For all those times you stood by me For all the truth that you made me see For all the joy you brought to my life For all the wrong that you made right For every dream you made come true
ผู้เข้าชมรวม
796
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
Special Day with Special Thing
Pairing : Sunggyu x Woohyun
Rate : g
Genre : RPS Fluff Light
Author : starholicxx
For all those
times you stood by me
For all the
truth that you made me see
For all the joy
you brought to my life
For all the
wrong that you made right
For every dream
you made come true
8/8/2015
INFINITE The 2nd
World Tour #INFINIITE_EFFECT
วันนี้เป็นวันแรกของการเริ่มต้นการแสดงคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของ
INFINITE ครั้งที่สอง
ซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการสุดแสนที่จะเท่ว่า The
2nd World Tour #INFINIITE_EFFECT หลังจากที่พวกเขาปล่อยทีเซอร์คอนเสิร์ตออกมายั่วยวนหลอกล่อเงินในกระเป๋าตังค์ของอินสปิริทที่รักมาเป็นเวลานานสองนาน
แถมบอสนิมที่เคารพของพวกเขาทุกคนยังทำเป็นฮิปสเตอร์อย่างไม่เข้าท่าด้วยการไม่ยอมประกาศลิสต์รายชื่อเมืองที่จะจัดเวิลด์ทัวร์ในครั้งนี้เนื่องจากต้องทุ่มเทเวลาไปให้กับการขายหมีที่เป็นโปรเจ็กต์เร่งด่วนกว่าในโครงการปั๊มเงิน
สามพันสี่ร้อยแปดสิบห้าล้านโปรเจ็กต์ของบอส ในที่สุดวัน D-Day ของการแสดงคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็มาถึงเสียที
นัมอูฮยอนตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ที่จริงแล้วจะเรียกว่าตื่นเช้ามันก็ไม่ตรงกับความเป็นจริงสักเท่าไหร่นัก
เพราะเมื่อคืนนี้กว่าสมาชิกอินฟินิททั้งเจ็ดคนและทีมสตาฟอีกเป็นสิบชีวิตจะได้เข้านอนพักผ่อนกันมันก็เป็นเวลาเกือบจะรุ่งเช้าของวันใหม่เข้าไปแล้ว
และสำหรับคนที่ตื่นเต้นกับการแสดงคอนเสิร์ตในทุกครั้งอย่างนัมอูฮยอน การข่มตานอนให้หลับก่อนการเริ่มแสดงคอนเสิร์ตก็เป็นสิ่งที่ทำได้ยากถึงยากมากที่สุดจริง
ๆ มันจึงเป็นเหตุผลที่อธิบายได้ไม่ยากเลยว่าทำไมอูฮยอนถึงนอนไม่หลับเลยตลอดคืนที่ผ่านมา
คนตัวเล็กเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองด้วยท่าทางง่วงงุน
เขานอนไม่พอแล้วร่างกายก็ต้องการการพักผ่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรที่เพียงแค่คิดว่าในวันนี้ตัวเองจะได้เจอกับอินสปิริทที่คอนเสิร์ต
ร่างกายที่เหนื่อยล้าและอ่อนแรงของนัมอูฮยอนก็ดูเหมือนจะมีพลังเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดจนความอ่อนล้าที่เกิดจากการพักผ่อนไม่พอและความเหน็ดเหนื่อยจากการซ้อมคอนเสิร์ตอย่างหนักในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมานี้หายไปจนเกือบหมด
เมนโวคอลคนเล็กของวงอินฟินิทเดินออกจากห้องนอน
เพื่อเดินตรงไปทางห้องครัว เขาอ้าปากหาวออกมาเบา ๆ ในขณะที่เงยหน้ามองดูนาฬิกาบนผนังห้อง
แปดโมงครึ่งแล้ว แต่มันยังเช้าเกินไปสำหรับการลุกจากที่นอน สมาชิกคนอื่นน่าจะยังไม่ตื่นหรือไม่ก็อาจจะตื่นเต้นจนนอนไม่หลับแล้วนอนคิดถึงคอนเสิร์ตที่จะเกิดขึ้นในวันนี้อยู่บนเตียงก็เป็นได้
“ง่วงอ่ะ “ คนตัวเล็กบ่นออกมาเบา
ๆ พลางอ้าปากหาวแล้วทำตาปรือ ผมยุ่ง ๆ กับตาปรือ ๆ
แบบนั้นทำให้เจ้าตัวเล็กมองดูเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งตื่นนอน
แล้วยังไม่นับท่าทางที่เด็กน้อยแห่งแฟนดอมนั่งเอาปากอมขวดนมรสกล้วยที่เพิ่งหยิบออกมาจากตู้เย็นมานั่งกินอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นนั่นก็อีก
น่ารัก จริง ๆ เลยน้า นัมอูฮยอน
เจ้าของความคิดและคำพูดประโยคนี้จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากหัวหน้าประธานสมาคมคนรักหลงและโอ๋อวยนัมอูฮยอนแห่งประเทศเกาหลีใต้
– คิมซองกยู
ลีดเดอร์นิมผู้ยิ่งใหญ่แห่งอินฟินิทเดินออกมาจากห้องนอนของนัมอูฮยอนที่เขามานอนด้วยอยู่เป็นประจำจนมันแทบจะกลายเป็นห้องนอนร่วมของซองกยูกับอูฮยอนไปแล้ว
คนเป็นพี่ชายเดินเข้าไปใกล้นัมอูฮยอนพลางยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่ม ๆ
นั่นอย่างเอ็นดูพลางถามว่าอีกฝ่ายทำไมถึงได้ตื่นเช้านัก
“ตื่นเช้าอะไรกันล่ะฮยอง นี่น่ะ
ยังไม่ได้นอนเลยต่างหาก” คนตัวเล็กพูดพลางขยี้ตา
เขามองซองกยูที่เดินมานั่งลงข้างกันแล้วก็ยิ้มหวานให้อีกฝ่ายด้วยท่าทางประจบ
“ว่าแต่ฮยองเถอะ
เมื่อคืนนอนหลับหรือเปล่าน่ะ”
“ก็หลับนะ แต่ก็หลับ ๆ ตื่น ๆ
เพราะคนบางคนแถว ๆ นี้นอนพลิกไปพลิกมา กวนใจ” ซองกยูพูดเป็นเชิงกระเซ้า
เพราะเป็นที่รู้กันดีระหว่างพวกเขาสองคนว่านัมอูฮยอนเป็นคนที่ไม่อยู่เฉยแม้แต่กระทั่งเวลานอน
แล้วมันก็จะเป็นหน้าที่ของซองกยูเองที่จะต้องคอยกอดอีกฝ่ายไว้ไม่ให้พลิกตัวไปมาบ่อยนัก
คำว่า กวนใจ ของคิมซองกยูทำให้คนฟังทำหน้าบึ้ง
คิมซองกยูน่ะพูดแบบนี้ตลอดนั่นแหละ ทั้งที่เป็นอีกฝ่ายเองแท้ ๆ ที่ชอบหาเรื่องโน่นนี่นั่นมานอนห้องเดียวกับอูฮยอนเพียงเพราะว่าไม่ชอบนอนคนเดียวแต่อีกฝ่ายกลับหาเหตุผลมาแก้ต่างให้ตัวเองว่าที่ต้องมานอนห้องอูฮยอนก็เพราะว่าเจ้าของห้องเป็นคนอยู่ไม่สุขและมักจะนอนดิ้นจนต้องให้คิมซองกยูมาคอยกอดไว้
นั่นน่ะ
มันถือเป็นเหตุผลซะที่ไหนกัน
มันก็เป็นแค่ข้ออ้างของคนแก่จอมเจ้าเล่ห์บางคนที่เลือกจะใช้มันเพื่อเอาเปรียบน้องชายของตัวเองไม่ใช่หรอกเหรอ
คิมซองกยู คนเจ้าเล่ห์เอ้ย !
“กวนใจอะไร กวนใจมากไหม
นอนด้วยกันนี่กวนใจมากเลยดิ งั้นฮยองก็กลับไปนอนห้องฮยองเลยไป ไปนอนห้องคนอื่นก็ได้จะได้ไม่ต้องมีคนกวนใจไง
ไปสิ ไปเลย” เด็กขี้ประชดพูดขึ้นมาอย่างขับไสไล่ส่งโดยไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะน้อยใจ
เพราะอูฮยอนรู้ดีว่าในพจนานุกรมของคิมซองกยูน่ะไม่เคยมีคำนี้บรรจุเอาไว้
แล้วอีกอย่างถึงถูกไล่น่ะ พี่ซองกยูจะยอมไปเสียก็ดี
“ไม่เอา ไม่ไป จะนอนด้วย
ถึงกวนใจก็ยอม จะนอนด้วย แม่พี่เคยบอกว่าคนเป็นแฟนกันไม่ควรแยกห้องกันนอน
เดี๋ยวความสัมพันธ์มันจะห่างเหิน”
คนเป็นพี่ชายพูดปนเสียงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
แถมคราวนี้ยังมีหน้าอ้างไปถึงออมม่าที่เคารพเสียอีกแน่ะ แล้วไอ้ที่พูดว่า ‘เดี๋ยวความสัมพันธ์มันจะห่างเหิน’ น่ะ
อูฮยอนคิดว่าตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเองกับซองกยูเห็นทีคงจะไม่มีวันที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนจะห่างเหินอย่างที่ซองกยูพูดแน่
ๆ
ก็ในเมื่อทุกวันนี้พี่ซองกยูทั้งหาเรื่องและหาเหตุผลสารพัดอย่างที่ฟังเข้าท่าบ้างไม่เข้าท่าบ้างมาอ้างกับอูฮยอนอยู่แทบทุกวัน
เพื่อหาเรื่องอ้างที่จะมานอนด้วยกัน เพื่อทำเรื่อง กระชับความสัมพันธ์ แบบที่พี่ซองกยูชอบและถนัดนักหนานั่นยังไงล่ะ
ตาเฒ่าหื่นกามเอ้ย !
คนที่ถูกแฟนตัวเองกวนประสาทแต่เช้าด้วยคำพูดที่มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่เข้าใจทำหน้าครึ่งยิ้มครึ่งบึ้งกับคารมของคนเป็นพี่ชายที่วันนี้ดูท่าทางจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษแม้จะเพิ่งตื่นนอน
มือเล็กยื่นขวดนมกล้วยที่เหลืออยู่เกือบครึ่งส่งไปให้ ซึ่งซองกยูก็รับมันไปดื่มต่อทันทีโดยไม่เกี่ยงงอนหรือมานั่งคิดเล็กคิดน้อยว่ามันเป็นของที่น้องชายของเขาดื่มเหลือไว้
“ตื่นเต้นอ่ะกยูฮยอง” อูฮยอนพูดพลางซบหน้าลงกับบ่าของคนเป็นพี่ชายอย่างอ้อน ๆ “วันนี้เป็นวันสำคัญมากเนอะ จะได้เจอกับอินสปิริทแล้ว
เมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลย พอไปทวิตบอกแฟน ๆ กลับถูกไล่ให้ไปนอนอีก
เดี๋ยวนี้อินสปิริทมีดุผมด้วยอ่ะ ชักเหิมเกริมกันใหญ่แล้ว”
คนตัวเล็กพูดอย่างนึกขำไม่หายจากรีแอคชั่นที่เขาได้รับมาจากการทวีตอ้อนอินสปิริทเมื่อคืนนี้
แล้วคำพูดแบบนั้นก็ทำให้คนเป็นพี่ชายอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอย่างนึกขำ วันนี้เป็นวันสำคัญอย่างที่นัมอูฮยอนพูดจริง
ๆ นั่นแหละ เพราะอินฟินิทไม่ได้จัดคอนเสิร์ตในเกาหลีมานานพอสมควรแล้ว
และอีกอย่างในวันนี้ก็เป็นการเริ่มต้นวันแรกของคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ของพวกเขาด้วย
ดังนั้นความสำคัญของวันนี้จึงยิ่งมากขึ้นเป็นทวีคูณ
และในวันสำคัญแบบนี้ คนสำคัญที่อยู่ข้าง
ๆ คิมซองกยูตลอดมาอย่างนัมอูฮยอนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับหัวใจของลีดเดอร์อินฟินิทอย่างคิมซองกยู
“อือ พี่ก็ตื่นเต้นเหมือนกัน
วันนี้จะได้เจออินสปิริทแล้ว” ซองกยูพูดในขณะที่ก้มลงมองสบตากับคนที่นั่งซบอยู่กับบ่า
ฝ่ามือสวยลูบเข้าที่แก้มนิ่มของน้องชายตัวเล็กอย่างเอ็นดู
“เดี๋ยวสาย ๆ
ก็ต้องไปคอนเสิร์ตฮอลล์แล้ว นายไปอาบน้ำเตรียมตัวไป
เดี๋ยวพี่ก็จะไปอาบน้ำเหมือนกัน
ตอนบ่ายคงต้องซ้อมบล็อกกิ้งแล้วก็ซาวด์เช็คอีกนิดหน่อย ใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ ละกันนะ
ตอนซ้อมจะได้คล่องตัว” คนอายุมากกว่าพูดอย่างแนะนำ
เขาผลักศีรษะของคนเป็นน้องให้ออกห่างจากบ่าก่อนที่ทำท่าจะลุกขึ้นเดินไปอาบน้ำตามที่บอก
“หารองเท้าสบาย ๆ ใส่ด้วยล่ะอูฮยอน
ตอนซ้อมจะได้ไม่เจ็บเท้า ไม่งั้นตอนขึ้นเวทีจริงล่ะลำบากแน่ เห็นตอนซ้อมเมื่อคืนก็บ่นเจ็บข้อเท้าอยู่”
ซองกยูพูดอย่างห่วงใย แต่คำพูดประโยคนั้นของคนเป็นพี่ชายกลับทำให้อูฮยอนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
รองเท้า อย่างนั้นเหรอ
“ซองกยูฮยอง” นัมอูฮยอนเรียกพลางเงยหน้ามองอีกฝ่าย
“หือ?”
“พูดถึงรองเท้าก็ดีแล้ว
รองเท้าที่ผมซื้อให้ฮยองตอนวันเกิดน่ะ ฮยองเอามาใส่บ้างหรือยัง” อูฮยอนถามพลางมองสบนัยน์ตาคู่เรียวนั่นอย่างอย่างคาดคั้น
อินสปิริทคงยังจำกันได้ดีว่าช่วงที่ซองกยูฮยองมีงานโชว์เคสเปิดตัวอัลบั้มโซโล่ของเขานั้น
นัมอูฮยอนได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการตามหาซื้อรองเท้าที่คนเป็นพี่ชายอยากได้เพื่อเอามาเป็นของขวัญเซอร์ไพรซ์ในโอกาสที่พี่ชายของเขามีอัลบั้มโซโล่และยังเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังของพี่ซองกยู
แต่มันเกิดความผิดพลาดบางอย่างจากความติงต๊องของนัมอูฮยอนที่ทำให้เขาซื้อรองเท้าที่ทั้งหายากและราคาแพงมากนั่นมาผิดไซส์
(อ้างอิงจากฟิคเรื่อง Showcase MC and The late
Birthday gift http://starholicxx.blog.fc2.com/blog-category-45.html)
นับจากงานโชว์เคสวันนั้นจนถึงคอนเสิร์ตในวันนี้ก็เกือบสามเดือนเข้าไปแล้ว
อูฮยอนยังไม่เห็นคนรักของเขาเอารองเท้าที่อูฮยอนซื้อให้เป็นของขวัญมาใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว
และอูฮยอนก็ยังจำได้เหมือนกันว่าในวันที่พวกเขา ทวีต
คุยเรื่องนี้กันต่อหน้าอินสปิริทสามแสนเจ็ดหมื่นหกพันคนที่เป็นพยาน
พี่ซองกยูบอกว่าเขาจะเอารองเท้าที่อูฮยอนซื้อให้ไปเปลี่ยนไซส์เนื่องจากรองเท้าคู่นั้นมันคับเกินไปและไม่พอดีกับเท้าของพี่ซองกยู
แต่อูฮยอนน่ะ
ไม่ยอมให้คนรักของเขาทำแบบนั้นหรอกนะ ก็นั่นมันเป็นรองเท้าที่อูฮยอนซื้อให้นา
ถ้าพี่กยูเอาไปเปลี่ยน แล้วมันจะเรียกว่าเป็นรองเท้าของอูฮยอนได้ยังไง
ถ้าจะบอกว่าอูฮยอนเอาแต่ใจแล้วทำอะไรไม่เข้าท่าอูฮยอนยอมรับก็ได้ว่าตัวเองเป็นแบบนั้นจริง
ๆ ก็จะเอาแต่ใจอ่ะ ก็อูฮยอนเป็นคนซื้อมาให้อ่ะ ทั้งตั้งใจซื้อให้แล้วราคามันก็แพงมากด้วย
ไม่นับที่หายากยิ่งกว่าอะไรดี มันเป็นของขวัญที่เกิดจากความตั้งใจและทุ่มเทของนัมอูฮยอนคนนี้เลยนะ
พี่ซองกยูจะต้องใส่แล้วก็ห้ามเอาไปเปลี่ยนไซส์เด็ดขาด
“อ๋อ รองเท้านั่น” ซองกยูลากเสียงยาว เขายังไม่ลืมหรอกว่าอูฮยอนซื้อของขวัญให้
แต่ซองกยูยังไม่เคยหยิบมันมาใส่เลยสักครั้ง
“ยังอยู่ในกล่องบนห้องนอนพี่โน่นแน่ะ
ยังไม่ได้ใส่เลย”
ยังอยู่ในกล่องบนห้องนอนพี่โน่นแน่ะ
ยังไม่ได้ใส่เลย
คำพูดของซองกยูทำให้เด็กขี้น้อยใจที่เป็นเจ้าของรองเท้าคู่นั้นทำหน้าบึ้งอย่างไม่พอใจ
พี่ซองกยูยังไม่ได้ใส่รองเท้าที่อูฮยอนซื้อให้เป็นของขวัญนั่นน่ะอูฮยอนก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่ามันเป็นเพราะอีกฝ่ายมีรองเท้าเยอะมาก
ทั้งที่ซื้อมาเองและที่เป็นของขวัญจากบรรดาแฟนคลับที่ให้เป็นของขวัญ แต่ที่พี่ชายของเขายังไม่แม้แต่จะหยิบออกมาจากกล่องนี่มันหมายความว่ายังไงกัน
ของขวัญของนัมอูฮยอนไม่สำคัญพอสำหรับลีดเดอร์นิมผู้ยิ่งใหญ่คิมซองกยูหรือยังไง
“ทำไมไม่ใส่อ่ะ” อูฮยอนถามเสียงแข็ง แล้วอาการที่ใบหน้าหวาน ๆ งอง้ำแบบนั้นมันก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวเล็กชักเริ่มเอาแต่ใจขึ้นมาอีกแล้ว
“ซื้อให้แล้วทำไมไม่ใส่
ไม่ชอบหรือไง ไหนพี่บอกว่าอยากได้รองเท้าแบบนี้ไงล่ะ”
“ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบ” ซองกยูรีบแก้ไขความเข้าใจผิดของคนรัก “แต่ฮยองเคยบอกไปแล้วนี่ว่ามันเล็กไปไซส์นึงแล้วอีกอย่าง….”
คำพูดประโยคถัดมายังไม่ทันออกมาจากปากของซองกยูว่าอะไรเป็นเหตุผลที่แท้จริงซึ่งทำให้เขายังไม่ได้ใส่รองเท้าคู่นั้น
นัมอูฮยอนที่กำลังง้องแง้งเพราะไม่ชอบใจที่คนเป็นพี่ชายไม่ยอมใส่รองเท้าที่ตัวเองซื้อให้ก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ถ้าชอบแล้วทำไมไม่ใส่อ่ะ
อย่าบอกนะว่าหาโอกาสใส่รองเท้าคู่นั้นไม่ได้ เพราะฮยองก็ใส่รองเท้าไม่เคยจะแมตช์กับเสื้อผ้าสักที
แล้วกับรองเท้าคู่นี้เป็นอะไร ทำไมฮยองถึงไม่ยอมใส่ ไม่อยากใส่ใช่ไหมล่ะ
ไม่เห็นความสำคัญของรองเท้าที่ผมซื้อให้ใช่ไหมล่ะ เออ ไม่ใส่ก็ไม่ต้องใส่หรอก
จำไว้เลย”
เด็กขี้น้อยใจร่ายยาวออกมาชุดใหญ่จนซองกยูฟังแทบไม่ทัน
“เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวสิอูฮยอนนา
ไปกันใหญ่แล้ว ใครบอกกันว่าฮยองไม่เห็นความสำคัญของของขวัญที่นายให้
รองเท้าคู่นั้นน่ะฮยองยังไม่ได้ใส่….”
เป็นอีกครั้งที่ซองกยูพูดยังไม่ทันจบประโยค
นัมอูฮยอนก็ขัดขึ้นมา
“ที่ฮยองยังไม่ใส่ก็เพราะมันไม่สำคัญไง
เออ มันก็แค่ของขวัญติงต๊องของน้องชายพี่ที่ซื้อมาผิดไซส์ ใส่แล้วมันก็คงจะไม่ดี มันไม่เท่
ไม่คูลเหมือนที่สาว ๆ ของพี่ซื้อจิวองชี่คู่ละหกหมื่นให้ใช่ไหมล่ะ เออ ช่างมันเหอะ
ไม่ใส่ก็ไม่ต้องใส่ จะเอาไปเปลี่ยนไซส์ก็เอาเลย หรือถ้าไม่เอาแล้วจะเอาไปให้คงต๊อกแทะเล่นก็ได้
ตามสบายเลย ไม่รู้ด้วยแล้ว”
ว่าไปนั่น …
คนที่กำลังน้อยอกน้อยใจเพราะแฟนไม่ยอมใส่รองเท้าที่ตัวเองซื้อให้เป็นของขวัญตัดพ้อออกมาอย่างน่าขำ
แล้วอยู่ดีไม่ว่าดียังไปพาลเอากับแฟน ๆ ที่ซื้อของขวัญให้ซองกยูเสียอีก โดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าสาว
ๆ พวกนั้นน่ะ แทบจะกลายร่างเปลี่ยนสัญชาติเป็น แอนตี้แฟน
ของนัมอูฮยอนกันหมดแล้วเนื่องจากความอิจฉาริษยาที่ ซองกยูโอปป้า
ของพวกเธอทั้งรักและโอ๋แฟนเด็กของเขาอย่างนัมอูฮยอนจนออกนอกหน้า
แล้วนี่คนสำคัญที่สุดของคิมซองกยูยังมีหน้าไปหึงสาว
ๆ พวกนั้นของซองกยูอีก มันไม่น่าขำไปหน่อยหรือไง
“นัมอูฮยอน เดี๋ยวก่อน เจ้าเด็กนี่
ฟังพี่ก่อนสิ พี่ยังไม่ได้บอกเลยนะว่าทำไมถึงยังไม่ได้ใส่รองเท้าคู่นั้น”
“ไม่รู้ ไม่สน ไม่ฟังอ่ะ” เด็กเอาแต่ใจพูดอย่างไม่มีเหตุผลจนคิมซองกยูชักปวดหัวขึ้นมาตงิด ๆ
อูฮยอนเป็นแบบนี้เสมอ
เวลามีเรื่องอะไรก็ขอให้ได้เอาแต่ใจและโวยวายไว้ก่อนที่จะรับฟังเหตุผล
และทุกครั้งที่เป็นแบบนี้มันก็เป็นหน้าที่ของคิมซองกยูทุกทีที่ต้องเหนื่อยคอยตามง้อแฟนเด็กของตัวเองด้วยสารพัดวิธี
และในครั้งนี้มันก็คงไม่ต่างจากที่เคยเพราะอูฮยอนยังไม่ยอมฟังเลยว่าทำไมซองกยูถึงไม่ยอมใส่รองเท้าคู่นั้น
“ถ้าไม่ฟังแล้วนายจะรู้เรื่องได้ยังไงว่าทำไมฮยองถึงไม่ใส่รองเท้าของนาย”
ซองกยูพูดปนหัวเราะ ขำก็ขำ
หนักใจก็หนักใจในความขี้น้อยใจแล้วยังเอาแต่ใจตัวเองอย่างไม่เข้าท่าของคนตรงหน้า
แต่ก็เพราะซองกยูรู้ดีว่าความน้อยใจของนัมอูฮยอนมีเหตุผลและแรงผลักดันมาจากความรักและความสำคัญที่อีกฝ่ายทุ่มเทความรู้สึกเหล่านั้นให้กับเขา
ซองกยูจึงไม่เคยเหนื่อยหน่ายหรือเบื่อเลยสักครั้งที่จะต้องคอยตามง้องอนแก้ไขความขุ่นเคืองใจของนัมอูฮยอนคนรักของเขา
“ก็ไม่อยากรู้แล้วอ่ะ ไม่สนใจแล้ว
ไม่ฟังแล้วด้วย ฮยองไม่อยากใส่ก็ตามสบาย เอาที่ฮยองสบายใจเลย เดี๋ยวกลับบ้านคราวหน้าจะเอารองเท้านั่นไปให้คงต๊อกแทะเล่นแล้ว
ฮยองไม่ต้องเอาแล้วรองเท้าน่ะ จำไว้” คนตัวเล็กพูด ๆ ๆ ๆ
ด้วยความน้อยใจแล้วก็สะบัดหน้าหนีลุกออกจากห้องนั่งเล่นเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปแสดงคอนเสิร์ต
โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของคิมซองกยูมองตามไปอย่างเอือมระอา
เจ้าเด็กนั่น ไม่รู้จริง ๆ
หรือไงกันนะว่าที่คิมซองกยูยังไม่ยอมใส่รองเท้าคู่นั้นน่ะ มันเป็นเพราะอะไร
นัมอูฮยอนนั่งอยู่ในตอนหลังของรถแวนคันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าหอพัก
สมาชิกอินฟินิทคนอื่นกำลังทยอยกันมาขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังสถานที่จัดคอนเสิร์ตในวันนี้
ยังขาดก็แต่พี่ชายคนโตของพวกเขาที่ยังไม่ลงมาขึ้นรถเสียทีทั้งที่ตอนนี้ก็ใกล้เวลาที่จะต้องเดินทางไปคอนเสิร์ตฮอลล์แล้ว
“อูฮยอน ซองกยูฮยองตื่นสายหรือไง
ทำไมยังไม่ลงมาจากห้องอีก” อีซองยอลยื่นหน้ามาถามจากเบาะหน้า
แล้วคำถามนั้นก็ทำให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังสุดเงียบ ๆ
อยู่คนเดียวทำหน้าบึ้งกระชากเสียงตอบอีกฝ่ายไปอย่างไม่สบอารมณ์
“ไม่รู้ ก็อยู่ด้วยกันจะไปรู้ได้ยังไง
ฮยองเขาไม่ได้บอกฉันนี่”
คำพูดอย่างคนพาลนั่นทำให้อีซองยอลกับอีซองจงหันมามองหน้ากันแล้วพี่น้องสองซองก็ส่ายหัวก่อนจะหันหน้าหนีกันไปคนละทางโดยไม่สนใจหรือถามอะไรนัมอูฮยอนอีก
ลองได้พาลเป็นลูกหมาน้อยหิวนมแม่แบบนี้ล่ะก็
โดนซองกยูฮยองขัดใจมาอีกแน่ ๆ อย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่า
ไม่มีใครในรถคันนั้นพูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายนาที
คิมซองกยูจึงเดินมาขึ้นรถเงียบ ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร
พี่ชายคนโตของวงนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังข้างคนรักของเขา
ต่างคนต่างหันหน้าไปคนละทางโดยไม่ได้พูดอะไรกัน ในขณะที่สมาชิกคนอื่น ๆ
ต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเองเนื่องจากตื่นเต้นกับคอนเสิร์ตที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้
จนกระทั่ง …
“อูฮยอนนา…” คนเป็นพี่ชายยอมเป็นฝ่ายเปิดฉากการสนทนาก่อนด้วยการเรียกชื่อน้องชายคนสำคัญของตัวเองด้วยน้ำเสียงง้องอน
“อะไร” เด็กเอาแต่ใจแกล้งทำเสียงแข็งทั้งที่กำลังโล่งอกและดีใจที่ตัวเองจะไม่ต้องเป็นฝ่ายเสียฟอร์มด้วยการเอ่ยปากพูดกับพี่ซองกยูก่อน
“เรื่องที่เราเถียงกันเมื่อเช้าน่ะ
นายยังโกรธพี่อยู่เหรอ”
“ไม่ได้โกรธ แค่น้อยใจ” อูฮยอนยอมรับออกมาตามตรง “ก็ให้ของขวัญวันเกิดไปตั้งนานแล้วฮยองไม่เห็นเอามาใช้เลย
จะให้คิดอย่างอื่นได้ยังไงนอกจากว่าฮยองไม่เห็นว่ามันสำคัญ แล้วอีกอย่าง…”
คราวนี้เป็นซองกยูบ้างที่ขัดจังหวะการพูดของนัมอูฮยอนขึ้นมาทั้งที่น้องชายของเขายังพูดไม่จบประโยค
“นายรู้ได้ยังไงว่าฮยองไม่ให้ความสำคัญกับของขวัญของนาย
ถ้าฮยองไม่เห็นว่ามันสำคัญแล้วฮยองจะทำแบบนี้ทำไม”
คำพูดของซองกยูทำให้นัมอูฮยอนกำลังจะอ้าปากถามว่าอีกฝ่ายหมายความว่าอย่างไร
แต่แล้วก็ดูเหมือนว่าคำถามนั้นจะไม่จำเป็นเลยเมื่อซองกยูยกขาขึ้นให้ดูว่าในวันนี้เขาสวมรองเท้าคู่ไหนมา
รองเท้าที่นัมอูฮยอนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดของซองกยู
รองเท้าที่คนตัวเล็กให้มาในวันที่ซองกยูจัดงานโชว์เคสเปิดตัวอัลบั้มใหม่
ของขวัญที่คนสำคัญของซองกยูให้มาในวันสำคัญถูกหยิบขึ้นมาใช้งานในวันสำคัญอีกวันหนึ่งของชีวิตคิมซองกยู
วันสำคัญที่มีคนสำคัญของคิมซองกยูอย่างนัมอูฮยอนอยู่เคียงข้างกัน
“ฮยอง…”
อูฮยอนเรียกอีกฝ่ายอย่างนึกไม่ถึง คนตัวเล็กเพิ่งจะเข้าใจในตอนนี้เองว่าทำไมซองกยูถึงเลือกที่จะเก็บรองเท้าคู่นี้ไว้ใส่วันนี้
ทั้งที่อูฮยอนให้รองเท้าคู่นี้กับอีกฝ่ายไปตั้งนานแล้ว มันไม่ใช่ว่าเป็นเพราะคิมซองกยูไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งของที่นัมอูฮยอนให้
แต่เป็นเพราะอีกฝ่ายให้ความสำคัญกับทั้งของสิ่งนั้นและให้ความสำคัญต่อคนที่ซื้อของให้
พี่ชายของเขาจึงเลือกที่จะใช้ของสำคัญแบบนั้นในวันสำคัญวันนี้
“ก็เพราะมันเป็นของขวัญที่คนสำคัญของฮยองซื้อให้
ฮยองเลยอยากเก็บมันไว้ใช้ในวันสำคัญ ไม่ใช่เพราะฮยองไม่ชอบหรือไม่อยากใส่อย่างที่นายตีโพยตีพายใส่ฮยองสักหน่อยเลย
รู้ไว้ด้วย เจ้าเด็กเอาแต่ใจ” พี่ซองกยูพูดอย่างเอือมระอา
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นใบหน้าของเขาก็ยังระบายไปด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดีอยู่ดี
“แล้วจะบอกอะไรให้ฟังอีกอย่างนะนัมอูฮยอนรองเท้าที่นายซื้อมาเนี่ยมันคับเพรามันเล้กกว่าเท้าฮยองหนึ่งไซส์
แต่ที่ฮยองไม่เอาไปเปลี่ยนไซส์ก็เพรามันเป็นของที่นายซื้อให้แล้วฮยองก็อยากเก็บมันไว้เพราะมันเป็นของสำคัญของคนสำคัญที่จะเอาไว้ใส่ในโอกาสสำคัญ
รู้แบบนี้แล้วจะเลิกงอนไม่เข้าท่าได้หรือยังหือ”
คำพูดของคิมซองกยูทำให้ความน้อยใจของนัมอูฮยอนจางหายออกไปจากใจจนหมด
ใบหน้าหวานกลับมาระบายด้วยรอยยิ้มสดใสอีกหนึ่งครั้งเมื่อคนตัวเล็กซึ้งใจกับความสำคัญที่พี่ซองกยูมีให้เขาเสมอ
เมนโวคอลคนเล็กของวงอินฟินิทเอนศีรษะพิงเข้ากับบ่ากว้างของคนที่นั่งอยู่ข้างกันในขณะที่รถแวนคันใหญ่เคลื่อนตรงไปข้างหน้าเพื่อพาสมาชิกอินฟินิททั้งเจ็ดคนมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดคอนเสิร์ต
#INFINITE_EFFECT ในวันสำคัญของพวกเขาทั้งเจ็ดคน
วันสำคัญ
ที่คิมซองกยูกับนัมอูฮยอนยังคงอยู่ด้วยกันอีกหนึ่งวันในเส้นทางของการทำงานและเส้นทางของความรักของพวกเขาทั้งสองคน
“เพราะของสำคัญของคนสำคัญก็ต้องใช้ในวันสำคัญ
ผมเข้าใจแล้วครับซองกยูฮยอง ขอบคุณสำหรับความสำคัญที่พี่มีให้ผมเสมอมา รักนะครับ
ซองกยูฮยอง คนสำคัญของผม”
For all the love
I found in you
I'll be forever
thankful baby
You're the one
who held me up
Never let me
fall
You're the one
who saw me through through it all
//FIN//
starholicxx talk
>> Special day with Special thing เป็นอีกหนึ่งในโอเอสมโนแบบต่อยอดของเราจากความฟินที่เห็นพี่กยูใส่รองเท้าที่เมนเราให้เป็นของขวัญ 555 นี่จะบอกว่าปลื้มใจกะมายเมนมากค่ะ น้ำตาจะไหล เขาเลือกเอาของสำคัญมาใส่ในวันสำคัญด้วยค่ะอ่อม่า ฮรื่อออ ร้องไห้ก่อย เลือดแม่ยกไหลแรงค่ะ เรือของเราแข็งแรงมาก ณ จุดนี้ 555 โอ้ยย จะบอกว่า ไม่รรู้จะทอล์คอะไรละคะนอกจากคำว่าปลื้มใจและรักคุ่นี้มากไม่ไหวแล้ว #คิมซองกยูแคร์นัมอูฮยอนมากนะ รู้ยัง ไม่รู้ก็รู้กันวันนี้แหละคะ ฮรื่ออ น้ำตาจะไหลอีกแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ รักค่ะ <3
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ starholicxx_ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ starholicxx_
ความคิดเห็น